ร่วมพิธีเปิดอนุสาวรีย์ “ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน” ตำรวจภูธรภาค ๔

วันที่ 5 ส.ค. 66

พ.ต.ท.ปฏิวัติ ชุมแวงวาปี พร้อมด้วยคุณฉัตรดาว ชุมแวงวาปี ภรรยา ร่วมพิธีเปิดอนุสาวรีย์ “ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน” ตำรวจภูธรภาค ๔ เมื่อวันเสาร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ด้านหน้าอาคารตำรวจภูธรภาค ๔ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ ได้จัดสร้างอาคารกรมตำรวจ ซึ่งก็คืออาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ในปัจจุบัน ซึ่งด้านหน้าอาคารได้จัดสร้าง ประติมากรรม อนุสาวรีย์ตำรวจผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมกัน ได้ทำพิธีเปิดในวันตำรวจเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๔๙๖ ตั้งแต่นั้นมา อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชนจึงถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นต้นมา

สำหรับอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน เป็นประติมากรรมที่มีค่าทางศิลปะและความหมายโดยจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสื่อสัญลักษณ์แทนความหมายในการปฎิบัติหน้าที่พิทักษ์รับใช้ประชาชน รวมถึงการสร้าง จิตวิญญาณ การสร้างอุดมการณ์และการปลูกฝังอุดมคติให้แก่ตำรวจดั้งนั้นเพื่อเป็นการสืบสานเจตนารมณ์ และเป็นนิมิตหมายที่ดี จึงเห็นควรจัดสร้างอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชนให้ตั้งไว้ ณ ด้านหน้าตำรวจภูธรภาค ๔ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ที่เป็นศูนย์กลางหน่วยงานตำรวจในภาคอีสานตอนบน ให้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ปลุกจิตสำนึกและเตือนสติข้าราชการตำรวจในสังกัดให้มีคุณธรรมนำพาในการปฎิบัติหน้าที่ ให้มีความเชื่อมั่น ความภาคภูมิใจดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี และที่สำคัญต้องเป็นที่พึ่งพาของประชาชน

พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.๔ มีดำริสืบสานเจตนารมณ์ของอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ว่าควรจะต้องมี สัญลักษณ์ใดที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่จะสามารถปลุกจิตสำนึกและเตือนสติข้าราชการตำรวจ จึงได้มีการจัดสร้าง อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ไว้ ณ ตำรวจภูธรภาค ๔

สำหรับอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ของตำรวจภูธรภาค ๔ เริ่มจัดสร้างเมื่อ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๖ สร้างรูปลักษณ์เสมือนรูปปั้นหล่อทองเหลือง อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ที่ตั้งอยู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจแทบทุกประการโดยมรขนาดความสูงของรูปปั้น ๑๙๐ ซม.และกว้าง ๑๑๕ ซม.จะแตกต่างก็เพียงการใช้สีของรูปปั้น เป็นสีมันปู (สีมันปู คือ สีแดงเจือเหลืองกับดำ)ซึ่งเป็นสีเปรียบประดุจดั่งสีของวัตถุมงคล ที่เชื่อว่า จะนำความสุข ความเจริญมาให้ และเป็นการป้องกันภยันอันตรายต่างๆโดยสีของเครื่องแบบและวัสดุอื่นๆจะเป็นสีเข้มกว่าพื้นที่กว่าพื้นที่ ที่เป็นผิวหนังเพื่อสร้างมิติให้รูปลักษณ์มีความสวยงามโดดเด่นมากขึ้น ตัวฐานทำจากหินอ่อนขัดมันสีขาว
ด้านหลังอนุสาวรีย์ มีการสร้างแก่นเสา ซึ่งทำด้วยหินอ่อนสีแดงเลือดหมูจำนวน ๑๒ ต้น เป็นสัญลักษณ์แทน ๑๒ จังหวัดด้านบนของเสาทุกต้น มีตราแผ่นดินทำด้วยโลหะสีเงิน โดยแต่ละเสาจะมีอักษรย่อเรียงตามชื่อจังหวัดซึ่งทำด้วยโลหะสีทองเหลือง ทำให้องค์รวมภาพลักษณ์ของอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน มีความสง่างาม และมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น